การทบทวนคำถาม ดังกล่าวข้างต้น จะทำให้เรามองเห็นสภาพปัจจุบัน-ปัญหา ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนหรือของประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่อง การพัฒนาเด็กแบบไม่สมดุล ที่เน้นการพัฒนาด้านวิชาการ มากกว่าการพัฒนา ด้านสุขนิสัย สุขภาพกาย สุขภาพจิต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ จากการศึกษาแนวคิด เรื่อง The Healthy Classroom Hasting (2006) ได้เขียนถึงปัญหา การบริโภคอาหารไร้คุณภาพ (Junk Food) ปัญหาการเบี่ยงเบนทางเพศ ปัญหาการทำร้ายร่างกายตนเอง ปัญหาการฆ่าตัวตายของเด็ก ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ชักจะเข้าใกล้ประเทศเรามากยิ่งขึ้นทุกวัน ยกเว้นเราจะมีการทบทวนสภาพปัญหาเหล่านี้กันอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่า จะนำไปสู่การกำหนดยุทธศาสตร์ หรือแนวทางการแก้ปัญหา ที่เป็นรูปธรรม ในโอกาสต่อไปได้อย่างแน่นอน ทางเลือกเพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตนักเรียน
จากคำถามดังกล่าวให้สรุปและตอบลงในบล็อกของนักศึกษา
จากการศึกษาเนื้อหาข้างต้นข้าพเจ้าเห็นด้วยกับการที่เราซึ่งเป็นครูจะต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตของนักเรียนพร้อมๆกับการพัฒนาทางด้านสมอง ซึ่งในยุคสมัยนี้เทคโนโลยีกับสื่อด้านต่างๆ มีการพัฒนาและก้าวหน้าเป็นอย่างมากเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลอย่างมากกับเยาวชนไทยในปัจจุบันในฐานะที่เราเป็นครูอยู่ในด้านการศึกษาก็ควรที่จะมีการเรียนการสอนที่เน้นทางด้านการพัฒนาจิตใจให้มาก ในยุคสมัยนี้จึงอยู่ที่ว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญและจำเป็นต่อคนวัยต่างๆแต่ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็มีทั้งประโยชน์และโทษซึ่งที่เราเรียกว่า “ดาบสองคม” จากที่ข้าพเจ้าได้รับรู้ข่าวสารต่างๆในปัจจุบันที่เกี่ยวกับเยาวชนก็มีเหตุการณ์ต่างๆที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก เช่น นักเรียนตบตีกันเพราะแย่งผู้ชาย นักเรียนทำแท้งและนำแด็กไปทิ้งตามที่ต่างๆ นักศึกษาชายชกต่อยกันหรือใช้อาวุธที่อันตรายต่อสู้กัน เยาวชนมั่วสุมยาเสพติดและมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และนักศึกษาขายบริการทางเพศ เป็นต้น ล้วนแต่เป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าว การใช้ความรุ่นแรง และการตัดสินใจทำอะไรที่ผิดศีลธรรม ส่วนด้านสุขภาพกายของเยาวชนไทยตอนนี้ก็น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก เพราะวัฒนธรรมตะวันตกมีบทบาทต่อการกินของเยาวชนไทยที่ตามเพื่อน ตามกระแสรสนิยม เป็นการกินที่รวดเร็วแต่มิค่อยมีประโยชน์ทางด้านอาหารเป็นอาหารจานด่วนที่มีสารอาหารประเภท แป้ง ไขมัน และน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่ทำให้เยาวชนไทยต่อไปจะเกิดภาวะอ้วน และเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ ดังที่ว่า “พุงเปรียบเสมือนโกดังเก็บโรค” ดังนั้นข้าพเจ้าคิดว่าถ้าประเทศไทยสามารถทำหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนที่เน้นทางด้านสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ก็จะเป็นการพัฒนาหลักสูตรที่ดีอย่างยิ่งต่อเยาวชนไทยที่มีเทคโนโลยีก้าวไกลอย่างเช่นในปัจจุบัน
จากการศึกษาเนื้อหาข้างต้นข้าพเจ้าเห็นด้วยกับการที่เราซึ่งเป็นครูจะต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตของนักเรียนพร้อมๆกับการพัฒนาทางด้านสมอง ซึ่งในยุคสมัยนี้เทคโนโลยีกับสื่อด้านต่างๆ มีการพัฒนาและก้าวหน้าเป็นอย่างมากเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลอย่างมากกับเยาวชนไทยในปัจจุบันในฐานะที่เราเป็นครูอยู่ในด้านการศึกษาก็ควรที่จะมีการเรียนการสอนที่เน้นทางด้านการพัฒนาจิตใจให้มาก ในยุคสมัยนี้จึงอยู่ที่ว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญและจำเป็นต่อคนวัยต่างๆแต่ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็มีทั้งประโยชน์และโทษซึ่งที่เราเรียกว่า “ดาบสองคม” จากที่ข้าพเจ้าได้รับรู้ข่าวสารต่างๆในปัจจุบันที่เกี่ยวกับเยาวชนก็มีเหตุการณ์ต่างๆที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก เช่น นักเรียนตบตีกันเพราะแย่งผู้ชาย นักเรียนทำแท้งและนำแด็กไปทิ้งตามที่ต่างๆ นักศึกษาชายชกต่อยกันหรือใช้อาวุธที่อันตรายต่อสู้กัน เยาวชนมั่วสุมยาเสพติดและมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และนักศึกษาขายบริการทางเพศ เป็นต้น ล้วนแต่เป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าว การใช้ความรุ่นแรง และการตัดสินใจทำอะไรที่ผิดศีลธรรม ส่วนด้านสุขภาพกายของเยาวชนไทยตอนนี้ก็น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก เพราะวัฒนธรรมตะวันตกมีบทบาทต่อการกินของเยาวชนไทยที่ตามเพื่อน ตามกระแสรสนิยม เป็นการกินที่รวดเร็วแต่มิค่อยมีประโยชน์ทางด้านอาหารเป็นอาหารจานด่วนที่มีสารอาหารประเภท แป้ง ไขมัน และน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่ทำให้เยาวชนไทยต่อไปจะเกิดภาวะอ้วน และเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ ดังที่ว่า “พุงเปรียบเสมือนโกดังเก็บโรค” ดังนั้นข้าพเจ้าคิดว่าถ้าประเทศไทยสามารถทำหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนที่เน้นทางด้านสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ก็จะเป็นการพัฒนาหลักสูตรที่ดีอย่างยิ่งต่อเยาวชนไทยที่มีเทคโนโลยีก้าวไกลอย่างเช่นในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น